เก้งหรือกวาง - เก้งหรือกวาง นิยาย เก้งหรือกวาง : Dek-D.com - Writer

    เก้งหรือกวาง

    คุณเคยคิดไหมว่าคนบางคนอาจจะไม่ได้เป็นเหมือนภาพลักษณ์ที่เขาแสดงออก อย่าง "ซูซี่" ที่ใครๆ ต่างก็คิดว่าเขาคือเก้งตัวแม่กวางตัวพ่อ แต่จริงๆ แล้วเขาคือ "สุเทพ" เสือผู้หญิงตัวฉกาจที่แฝงอยู่ในคราบกระเทียมโทน

    ผู้เข้าชมรวม

    749

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    749

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  ตลก-ขบขัน
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  21 ก.ค. 53 / 16:15 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    คุณเคยคิดไหมว่าคนบางคนอาจจะไม่ได้เป็นเหมือนภาพลักษณ์ที่เขาแสดงออก อย่าง "ซูซี่" ที่ใครๆ ต่างก็คิดว่าเขาคือเก้งตัวแม่กวางตัวพ่อ แต่จริงๆ แล้วเขาคือ "สุเทพ" เสือผู้หญิงตัวฉกาจที่แฝงอยู่ในคราบกระเทียมโทน

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      เก้งกวาง

       

      กรี๊ดดดดดดดดดดดด!! ซูซี่ นี่มันอะไรกัน!!!”

      เสียงแตกตื่นของหญิงสาวที่กะลังตกใจกับสภาพเปลือยเปล่าของตัวเองบนเตียง

      อ๊ายยย!! นั่นน่ะซิเพลิน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเราสองคนเนี๊ย!!!”

      อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างสะดีดสะดิ้ง

      มะ...เมื่อคืนเราปาร์ตี้กัน ละ.. แล้วเราก็มะ...เมา แล้วเราก็.... ฮืออออ!!!”

      หญิงสาวพยายามทบทวนเรื่องราวของค่ำคืนที่ผ่านมาอย่างไตร่ตรอง เมื่อคืนเธอและเพื่อนๆ มาปาร์ตี้กันที่บ้านของคนที่เปลือยกายอยู่ข้างตัวเธอบนเตียงในตอนนี้ ซูซี่

      ก็นั่นน่ะซิยะยัยเพลิน!! อ๊าย!! อะไรกันยะ นี่ฉันถูกชะนีอย่างเธอทำ.... อ๊ายย!!! รับไม่ด๊ายยย!!!”

      ซูซี่ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด เพลินพยายามหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องนี้

      เดี๋ยวซิ หลังจากเพื่อนๆ กลับไปแล้ว อย่างกับว่าฉันเจอผู้ชายคนหนึ่งแล้ว....แล้วเราก็.....แต่พอตื่นมาทำไมถึงได้กลายเป็นหล่อนได้ล่ะซูซี่

      ไม่รู้ย่ะ!!! เมื่อคืนฉันก็รู้สึกว่าฉันได้เจอมาริโอ้ เมาแล้วเรอ แต่ทำไมตื่นมาถึงได้เจอชะนีขี้เมาอย่างหล่อนไปได้ล่ะย่ะ ฮึ๋ยยยย!!!”

      ซูซี่ทำท่าทางขยะแขยง เพลินรู้สึกมึนหัวไปหมด จนในที่สุดเธอก็ตัดสินใจได้

      มันเป็นความผิดพลาด! ซูซี่! มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราแค่เมา... แล้ว... แล้ว... โอ๊ย! ห้ามบอกเรื่องนี้กับใครนะ!!!”

      ย่ะ!!!! คิดว่าฉันจะกล้าบอกเรื่องกับใครยะ!!! เสียประวัติหมด!! ไปๆ รีบแต่งตัวซะ!!!”

      แล้วซูซี่ก็ไล่ให้เพลินไปแต่งตัว ทันทีที่เพลินแต่งตัวเสร็จ เธอก็รีบนั่ง taxi กลับไป ซูซี่เดินเข้ามาในบ้านพลางบิดร่างกายไปมาอย่างเมื่อยขบ

      เฮ้อ!!! เสร็จไปอีกคนหนึ่ง ยัยเพลินนี่ไม่เลวเลยแหะ ไม่เสียทีที่วางแผนจัดปาร์ตี้เสียดิบดี

      ซูซี่ยื่นยิ้มกริ่มมองเตียงของตัวเอง และพูดด้วยน้ำเสียงภูมิใจในผลงาน น้ำเสียงที่ไม่ได้สะดีดสะดิ้งอีกแล้วแต่มันกลายเป็นเสียงของผู้ชายแท้ๆ คนหนึ่ง

      นั่นแหละครับตัวผม ผมชื่อสุเทพ ชื่อเล่นจริงๆ ชื่อ สุแต่เพื่อนๆ ที่ผมรู้จักในตอนนี้จะเรียกผมว่า ซูซี่อย่างที่คุณผู้อ่านได้ยินนั่นแหละครับ หือ? ทำไม? น่ะเหรอครับ? คงต้องเท้าความไปถึงสมัยก่อนตั้งแต่ผมยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมอยู่เลย

      สมัยนั้นผมถูกล้อเลียนจากเพื่อนๆ มาตลอดว่ามีกริยาท่าทางคล้ายกับพวกกระเทยม๊ากมาก และผมก็ดันเป็นพวกที่มีนิสัยหนามยอกต้องเอาหนามบ่งเสียด้วย ผมเลยทำตัวให้เหมือนกระเทยไปเสียเลย ตอนแรกๆ ผมทำไปโดยแค่นึกสนุกเฉยๆ แต่หลังจากนั้นน่ะซิครับมันทำให้ผมติดใจเสียแล้วที่จะอยู่ในสภาพนี้

      เพราะอะไรน่ะหรือครับ ก็เพราะว่าการทำตัวเป็นกระเทยนี่แหละทำให้ผมได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มเพื่อนผู้หญิง ได้ใกล้ชิดกับพวกเพื่อนสวยๆ ถูกเนื้อต้องตัวได้อย่างแนบเนียนโดยที่เจ้าหล่อนพวกนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังถูกแต๊ะอั๋งอยู่

      จนวันหนึ่งวันที่กำลังจะจบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมเพื่อก้าวเข้าสู่รั้วมหาลัย พวกเราได้จัดงานเลี้ยงอำลาขึ้นวันนั้นเพื่อนสาวสุดสวยคนหนึ่งที่ผมหมายตามานานแล้วก็ดื่มหนักจนเมามาย ผมจึงอาสาพาเธอไปส่งที่ห้องพักสองต่อสองเพราะเธอพักอยู่คนเดียว ด้วยความไว้วางใจที่พวกเพื่อนๆ เห็นผมเป็นกระเทยนั่นแหละครับทำให้คืนนั้นไม่ต้องบอกก็รู้นะครับว่าเกิดอะไรขึ้น

      มันทำให้ผมคิดได้ว่าลำพังหน้าตาผมที่ไม่ได้หล่อเหลาอะไร ถ้าทำตัวเป็นผู้ชายแล้วเดินเข้าไปจีบเธอเหมือนที่พวกผู้ชายคนอื่นๆ ทำ ก็ไม่รู้ชาตินี้ผมจะได้มีโอกาสแอ้มเธอเหมือนตอนนั้นหรือเปล่า ฮ่าๆ จะว่าผมเลวก็ได้นะครับผมไม่เถียง เพราะจะว่าไปผมก็เลวจริงๆ นั่นแหละ

      แต่ผมก็ไม่ยอมเปลี่ยนแน่ๆ ครับ เพราะหลังจากเข้ามหาลัยสภาพกระเทยของผมนี่แหละครับทำให้ผมได้ใกล้ชิดกับสาวงามมากมาย แถมสามารถกำจัดผู้ชายที่มาเกาะแกะพวกสาวๆ เหล่านี้ออกไปได้ด้วยเพียงแค่ผมเอ่ยปากเท่านั้น สาวๆ เหล่านี้ก็เชื่อผมสนิท

      ยิ่งถ้าใครอกหักมาล่ะก็ยิ่งเข้าทางเลยทีเดียว แค่ป้อนเหล้าเข้าไปนิดหน่อย ก็เหมือนลูกไก่ในกำมือ และทุกครั้งที่เสร็จสิ้นภารกิจ ผมก็จะใช้วิธีเดียวกับที่ใช้กับยัยเพลินนี่แหละครับคือแกล้งทำเป็นเมาไปด้วย และเราสองคนก็จะปกปิดความลับไม่ให้ผู้อื่นล่วงรู้ สำหรับฝ่ายหญิงคงไม่บอกแน่ๆ เพราะใครจะอยากให้คนอื่นรู้ล่ะครับว่าเผลอไปมีอะไรกับกระเทย ฮ่าๆ

      ส่วนผมยิ่งไม่ต้องผู้ถึงไม่มีทางบอกใครแน่ๆ เพราะถ้าบอกไปไก่ก็ตื่นหมดน่ะซิ จริงไหม? ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ แล้วจะขอนอนต่อเสียหน่อย เพลียจริงๆ

      เช้าวันรุ่งขึ้น สุเทพกำลังแต่งตัวไปทำงานในชุดที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการให้คนอื่นเห็นเขาเป็นอะไร

      อย่างแรกกางเกงขาเดฟรัดรูปจนแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกับขา รองเท้าหนังแท้เงาวับที่มีปลายเท้าแหลมเปรี๊ยะอย่างกับเข็ม เสื้อเชิ้ตรับรูปที่ติดกระดุมเพียงครึ่งเดียวของจำนวนทั้งหมด เพื่อให้พื้นที่ด้านขนของเสื้อเปิดหน้าอกจนแทบจะเห็นสะดือ โดยมีสร้อยที่เหมือนกับโซ่เส้นเขื่องประดับอยู่ที่ลำคอ

      หนวดเคราของสุเทพจะถูกกำจัดไปทันทีที่เขาเห็นมันโผล่ขึ้นมา ขนตายาวถูกดัดให้โค้งขึ้นไปข้างบนชนิดที่ผู้หญิงบางคนยังอาย คิ้วทั้งสองข้างถูกกันจนบางไม่แพ้สาวๆ เครื่องสำอางพื้นฐานที่สุเทพจะแต่งเติมใส่ใบหน้าทุกครั้งคือ รองพื้น และแป้งฝุ่น

      ทรงผมของเขาต้องใช้เวลาเซ็ทมันเป็นเวลานานอย่างประณีตจนเข้าทรง แม้แต่หูทั้งสองข้างเขาก็ลงทุนไปเจาะมา แถมด้วยต่างหูที่มีพลอยเนื้ออ่อนติดอยู่ข้างละหนึ่ง น้ำหอมสุดหรูกลิ่นรันจวนถูกพรมใส่ร่างกายเป็นการตบท้าย

      สภาพของสุเทพตอนนี้ไม่ว่าใครหน้าไหนหรือแม้แต่เพศที่สามที่สี่ ณ แห่งหนใดก็ต้องพร้อมใจกันฟันทิ้งว่า สุเทพนั้นถ้าไม่ใช่เก้งตัวแม่ก็ต้องเป็นกวางตัวพ่ออย่างแน่นอน

      สุเทพควบรถเก๋งยี่ห้องดังขนาดเล็กกะทัดรัดสีแดงเจ๋มาจนถึงที่ทำงาน สุเทพทำงานเป็นพนักงานฝ่ายการตลาดให้กับบริษัทเครื่องสำอางชื่อดัง

      เมื่อสุเทพเดินขึ้นมาจนถึงด้านในบริษัทพนักงานสาวใหญ่ที่เป็นหัวหน้าก็เอ่ยทักทันที

      ซูซี่เดี๋ยวออกไปดูบูทที่ห้างเซ็งท่าน แทนพี่ทีซิ

      โอ๊ย! คุณพี่ขา! ทำไมคุณพี่ไม่โทรบอกหนูก่อนคะ หนูจะได้ไม่ต้องเดินเข้ามาในอ๊อฟฟิตให้สะเทือนมดลูก!!!”

      สุเทพพูดด้วยเสียงจริตจะก้าน เป็นที่ขำขันของคนที่ได้ยิน หลังจากนั้นสุเทพก็ขับรถมุ่งหน้าสู่ห้างสรรพสินค้าที่ได้รับมอบหมาย เมื่อถึงจุดหมายสุเทพก็มุ่งหน้าไปยังบูทแสดงสินค้าทันที โดยเขาคอยกำกับให้พนักงานในบูททำงาน และขณะที่เขากำลังยืนดูการทำงานของพนักงานในบูทอยู่นั้น

      ขอโทษนะคะ คุณ........ เอ่อ..... ใช่สุเทพหรือเปล่าคะ?

      เสียงหวานๆ ดังมาจากด้านหลัง สุเทพหันไปมองตามเสียง

      ใช่คะ

      เขาตอบไปตามความเคยชิน ก่อนจะชะงักเล็กน้อยกับภาพที่เห็น

      ใครวะ สวยชะมัด

      สุเทพลอบรำพึงในใจตรงหน้าเขาคือสาวสวยแปลกหน้า เจ้าหล่อนกำลังส่งยิ้มหวานละลายใจมาให้ ทำเอาสุเทพเกือบจะหลุดแอ๊บกระเทย

      ใช่จริงๆ ด้วย จำเราได้ไหม บีมไง เราอยู่ห้องเดียวกับเธอสมัยเรียน ม.ปลายพอจะนึกออกหรือเปล่า

      สุเทพพยายามระลึกชาติอย่างสุดกำลังแต่ก็นึกภาพสาวสวยคนนี้ไม่ออก แม้ชื่อเจ้าหล่อนจะฟังดูคุ้นหูเท่าไหร่ก็ตาม

      สวยขนาดนี้ทำไมตูจำไม่ได้ฟร่ะ

      สุเทพคิด สาวสวยตรงหน้ายิ้มให้อีกแล้วก็พูดขึ้น

      จำเราไม่ได้ก็ไม่แปลกหรอก ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี แถมเราเปลี่ยนจากเมื่อสมัยนั้นจนเพื่อนที่เราเจอทุกคนจำเราไม่ได้ทั้งนั้นล่ะ สมัยนั้นเราเป็นคนเงียบๆ หน้าตาธรรมดาๆ ไม่มีใครสนใจเราหรอก

      ประโยคของสาวเจ้าจุดประกายให้กับสุเทพทันที เพราะเขาเริ่มมั่นใจว่ามีเพื่อนชื่อบีมตอนเรียนมัธยมปลายจริงๆ และรู้สึกจะเป็นคนที่เก็บตัวมากไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ไม่คิดว่าจะกลายเป็นสาวสวยแบบนี้ไปได้

      สุเทพยิ้มกริ่มในใจเมื่อเจอเหยื่อรายใหม่ เขาหมายมั่นแล้วว่าจะเผด็จศึกเพื่อนเก่าสาวสวยคนนี้ให้ได้

      ต๊าย!!! เพื่อนเก่าเพื่อนแก่เลยนะยะเนี่ย อย่าโกรธฉันนะเธอที่จำเธอไม่ได้ ผู้หญิงเราก็อย่างนี้แหละ ยิ่งโตยิ่งสวย โดยเฉพาะเธอเนี่ยสวยจากเมื่อก่อนชนิดฉันจำไม่ได้จริงๆ

      สุเทพพูดทำเป็นตีสนิททันทีทั้งๆที่เขาเองก็นึกภาพเพื่อนคนนี้ในสมัยก่อนไม่ออกเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่มั่นใจว่ามีเพื่อนชื่อนี้ในห้องเท่านั้น

      ขอบใจจ๊ะ สุเทพเองก็สวยขึ้นนะ แต่เราก็พอจะจำได้ไม่ยากเลย

      ว๊าย!!! อย่าเรียกชื่อนั้นซิยะ ต้องเรียกว่าซูซี่จ๊ะ เป็นชื่อในวงกาลลลลลล

      สุเทพพูดลากเสียงสูงปรี๊ด บีมหัวเราะชอบใจกับท่าทางของเขา ยิ่งทำให้สุเทพมั่นใจว่าคราวนี้เคี้ยวขนมแน่ๆ

      ทั้งสองคุยกันถึงเรื่องต่าง ๆ ในอดีต แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสุเทพที่เป็นฝ่ายเล่าเรื่องของตัวเองสมัยนั้นมากกว่า เพราะบีมไม่ค่อยมีเรื่องราวหรือวีรกรรมเยอะเท่าเขา

      บีมเล่าเรื่องของตัวเองหลังจากที่จบสมัยมัธยมปลายให้สุเทพฟัง ว่าเธอเริ่มเปลี่ยนไปทั้งรูปร่างหน้าตาทรงผมการแต่งตัวเพราะการเข้ามหาวิทยาลัยของเธอ เมื่อจบออกมาเธอก็มาทำงานเป็นดีไซด์เนอร์เสื้อผ้าที่มาแสดงผลงานของเธอที่ห้างนี้เช่นกัน

      ต๊าย! นี่หล่อนเป็นดีไซด์เนอร์หรือเนี่ย ไม่น่าเชื่อเลย ถ้ายังไงต้องพาฉันไปยลผลงานเธอหน่อยแล้วล่ะ อยากเห็น! ว่าแต่คืนนี้หล่อนว่างมั๊ยยะ เดี๋ยวจะพาไปเหล่ผู้ชายที่สีลม ไปมะๆๆ(กรุณาอ่านด้วยสำเนียงกระเทย)

      บีมหัวเราะแล้วตอบตกลง

      ว่างจ๊ะ

      โอ๊เค่! ถ้าอย่างนั้นรอฉันเลิกงานก่อนแล้วเจอกันนะ

      หลังจากนั้นสุเทพก็ทำการแลกเปลี่ยนเบอร์โทรกับบีม จนเมื่อถึงเวลาเลิกงานสุเทพโทรหาบีมทันที

      ฮัลโหลบีมอยู่ไหนยะหล่อน.......... อ๋อ! โอเคเดี๋ยวฉันไปรับ..........จ้า !!! เจอกัน

      ได้ความว่าบีมเธอกลับไปที่ห้องของเธอที่อยู่ไม่ห่างจากห้างฯนัก สุเทพขับรถออกไปตามที่อยู่ที่บีมบอกเขา จนในที่สุดรถของสุเทพก็มาจอดอยู่หน้าคอนโดหรูใจกลางเมือง สุเทพยกโทรสับกดหาบีมอีกครั้ง

      ฮัลโหลบีมถึงแล้วนะยะ จะให้ฉันขึ้นไปไหม?

      สุเทพถามด้วยความหวังลึกๆ

      ไม่จ๊ะ ฉันแต่งตัวเสร็จพอดี กำลังเดินลงไปแล้ว

      บีมตอบกลับ ทำเอาสุเทพเสียดายไม่น้อย

      ถ้าอย่างนั้นฉันรอเธออยู่ที่หน้าตึกนะยะ ขอเหล่ยามคอนโดเธอหน่อยน่ากินชะมัดเลย

      สุเทพพูดตามแบบฉบับเพื่อความแนบเนียน บีมหัวเราะ

      ได้จ้า! เดี๋ยวเจอกัน

      หลังจากวางสายสุเทพเดินวนเวียนอยู่แถวด้านหน้าทางเข้าออกของคอนโด โดยยังไม่ได้เข้าไปแต่อย่างใด และทันทีที่เขาสังเกตเห็นลิฟต์ที่กำลังจะลงมาเขาก็ตรงดิ่งเข้าไปใกล้ๆ ยาม เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกและร่างของบีมก้าวออกมา สุเทพก็หันไปส่งสายตาหวานเยิ้มให้ยามทันที

      นี่ตัวเธอ มีแฟนหรือยัง ออกเวรเมื่อไหร่หรอ ไปเที่ยวกันไหม?

      ยามคนนั้นมีท่าทีตกใจเล็กน้อยกับท่าทีของสุเทพ ยามยิ้มแห้งๆ ให้เขาด้วยท่าทีหวาดๆ บีมที่เดินเข้ามาใกล้หัวเราะคิก

      นี่ซูซี่ มาจีบพี่ยามเขาจริงๆ เหรอเนี่ย ไปๆ ไปเที่ยวกันได้แล้ว

      บีมพูดอย่างอารมณ์ดีพลางผลักให้สุเทพเดินไปทางลานจอดรถสุเทพแกล้งทำเป็นอิดออด

      ไม่ไปได้มั๊ย พี่คนนี้น่ากินกว่าเยอะ

      สุเทพพูดพลางส่งจูบไปทางพี่ยาม จนพี่ยามเกิดอาการขนลุก แต่แล้วเขาก็ยอมเดินไปตามแรงผลักของบีมโดยแกล้งทำเป็นเสียดายเล็กน้อย เขาหันมาสำรวจการแต่งกายของบีมก็พบว่าสาวเจ้าอยู่ในชุดประโปรงสั้นสุด sexy สีดำจนเขาแทบอยากจะสลัดคราบกระเทยทิ้งแล้วกระโจนเข้าหาเธอมันเดี๋ยวนั้น แต่ก็ต้องสะกดกลั้นเอาไว้ แล้วขับรถออกไปพลางชวนเจ้าหล่อนคุยเรื่องอื่นอย่างสนุกสนาน

      เมื่อไปถึงผับทั้งสองคนต่างก็เฮฮากันอย่างสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเมื่อมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นตัวชูโรงอะไรๆ ก็ดูจะสนุกไปเสียหมด

      ระหว่างนั้นก็มีผู้ชายหลายคนเดินวนเวียนเข้ามาขอชนแก้วกับบีมบ้าง จีบดื้อๆ บ้างแต่ผู้ชายเหล่านั้นก็ถูกเขากันออกไปอย่างง่ายดายโดยการเข้าไปจีบผู้ชายเหล่านั้นเสียเอง ถ้าคนไหนดื้อด้านเขาก็งัดไม้ตายออกมานั่นก็คือการลวนลาม จนผู้ชายเหล่านั้นทนไม่ไหวต้องเดินหนีจากไป

      สุเทพพยายามให้บีมดื่มให้มากที่สุดโดยไม่ให้เจ้าหล่อนรู้ตัวเมื่อรู้สึกว่าเจ้าหล่อนเมาได้ที่เขาก็ลอบแต๊ะอั๋งอย่างแนบเนียน และยิ่งเมื่อเจ้าหล่อนไม่มีปฏิกิริยาป้องกันตัวจากเขาก็ทำให้เขามั่นใจว่าหล่อนเมาแล้ว

      บีม!! เป็นไงบ้างหล่อน!”

      สุเทพแกล้งทำเป็นถามบีมเพื่อความแน่ใจ แต่บีมไม่ตอบ

      เมาแล้วมั้งเนี่ย กลับกันดีกว่ามั๊ย!”

      เขาถามเธอ บีมทำได้แค่เพียงพยักหน้ารับ และนั่นทำให้เขาลอบไชโยในใจอย่างยินดี แล้วสุเทพก็หอบเอาร่างอ่อนระทวยของเพื่อนสาวขึ้นรถ แล้วมาส่งที่คอนโดของเจ้าหล่อนเอง สุเทพค่อยๆ หอบร่างของเพื่อนสาวขึ้นไปบนห้องของเธอ

      เมื่อเข้ามาในห้องสุเทพจัดแจงวางร่างของเธอให้นอนบนเตียง พลางเผยรอยยิ้มสมใจหมาย เขาก้มลงไปหอมแก้มเธอเป็นการมัดจำ

      รอก่อนนะจ๊ะบีม เดี๋ยวขอไปอาบน้ำซักหน่อยก่อน

      ว่าแล้วเขาก็เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ เมื่อออกมาจากห้องน้ำภาพที่ทำให้เขาต้องชะงักคือบีมกำลังนั่งอยู่ที่ขอบเตียงแล้วมองมาทางเขา

      อ้าว? บีมตื่นแล้วเหรอเธอ พอดีฉันร้อนน่ะเลยขอยืมใช้ห้องน้ำเธอหน่อย

      บีมมองเขาด้วยสายตาที่ไม่เหมือนคนเมาแม้แต่น้อย

      ไม่ต้องแกล้งทำเป็นกระเทยแล้วละสุเทพ

      เธอบอกกับเขา ทำเอาใจของสุเทพหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม

      หมายความว่าไงยะบีม

      ที่เธอทำกับฉันเมื่อกี้ก่อนที่จะเข้าห้องน้ำนั่นก็เป็นการแสดงออกมาแล้วไม่ใช่เหรอว่าเธอไม่ได้เป็นกระเทย

      พระเจ้าช่วยเธอไม่ได้เมา!! เอายังไงดีละสุเทพ ขณะที่สุเทพกำลังคิดหาทางหนีทีไล่อยู่นั้นบีมก็พูดออกมาอีกว่า..

      เธอจำ แอนได้ไหม?

      สุเทพแข็งเป็นหินเมื่อได้ยินชื่อนี้ แอน? จำได้ซิ ก็แอนคนนี้แหละที่เขาหมายตาเอาไว้สมัยมัธยม แล้วเขาก็เป็นคนไปส่งเธอหลังจากงานเลี้ยงจนได้เผด็จศึกเธอในคืนนั้นเอง

      ที่ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่กระเทยก็เพราะแอนนี่แหละบอกฉัน และก็บอกด้วยว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้ในคืนนั้น

      บีมพูดต่อ ทำเอาสุเทพเหงื่อตก

      บีม เธอคงไม่.......

      เสียงของสุเทพไม่ได้ดัดจริตอีกต่อไป หากแต่เป็นเสียงของผู้ชายล้วนๆ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เขาใช้พูดกับคนอื่น สุเทพกำลังกลัวว่าบีมกำลังจะใช้เรื่องนี้ในการเปิดโปงเรื่องที่เขาแกล้งเป็นกระเทย บีมมองเขาแล้วยิ้มเล็กน้อย

      อย่ากลัวไปเลยสุเทพ ฉันไม่บอกเรื่องนี้กับใครหรอก แอนเองก็ไม่ได้ติดใจจะเอาความอะไรกับเธอเรื่องนี้ แต่ที่ฉันจะบอกกับเธอคือฉันชอบเธอ ชอบมาตั้งแต่ตอนที่เธอยังไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นกระเทยแล้ว

      คำพูดของบีมทำเอาสุเทพมืนงงไปหมด บีมลุกขื้นจากเตียงแล้วเดินเข้ามาหาเขา

      ฉันชอบนายมาตลอด แม้จะเห็นว่านายกลายเป็นกระเทยไปแล้วฉันก็ยังชอบอยู่ และยิ่งมารู้จากแอนว่านายไม่ได้เป็นกระเทยจริงๆ แค่แกล้งเป็นเท่านั้นยิ่งทำให้ฉันดีใจ

      บีมเดินเข้ามาสวมกอดเขาเอาไว้ กลิ่นหอมของเธอลอยเข้ามากระทบจมูก นี่เขาหูฝาดไปหรือเปล่าสาวสวยคนนี้รู้ว่าเขาไม่ใช่กระเทย แถมกำลังสารภาพรักกับเขาอีกด้วย

      ไว้เท่าความคิด สุเทพโอบกอดร่างของบีมเอาไว้

      ฉันก็ชอบเธอบีม ที่ฉันแกล้งทำเป็นกระเทยมาตลอดเพราะต้องการใกล้ชิดกับผู้หญิง เพื่อที่จะหาผู้หญิงที่ชอบฉันจริงๆ ซักคนหนึ่ง ว่าแต่เธอชอบฉันจริงๆ เหรอ?

      แทนคำตอบบีมเอาแขนคล้องคอเขาให้ก้มลงต่ำเพื่อรับกับสัมผัสจากริมฝีปากของเธอ จนในที่สุดสุเทพก็ทนไม่ไหวจัดการทิ้งตัวเองและบีมลงไปบนที่นอน แต่ขณะที่เขากำลังจะสานต่อการกระทำ บีมก็จับมือเขาหยุดเอาไว้เสียก่อน

      ทำไมเหรอบีม?

      เขาถามเสียงกระเส่า

      บีมของเป็นฝ่ายทำเองได้มั๊ย แต่ทำตามวิธีการของบีมนะ

      บีมพูดเสียงออดอ้อน สุเทพยิ้มกริ่ม

      ได้เลยไม่มีปัญหา

      บีมจัดการเขาให้นอนหงายแล้วหันไปล้วงอะไรบางอย่างจากมุมเตียงทั้งสี่มุมออกมา สุเทพเห็นเข้าก็งุนงงเล็กน้อยเพราะมันคือกุญแจมือ

      บีมชอบแบบนี้เหรอเนี่ย?

      สุเทพถามบีมหันมายิ้มหวานให้

      สุเทพไม่ชอบเหรอ?

      ชอบซิ เคยเห็นแต่ในหนังไม่เคยลองมาก่อนเลย เอาเลยๆ อยากลอง

      สุเทพเรียกร้องเหมือนเด็กๆ บีมจัดการพันธนาการแขนขาของสุเทพเข้ากับกุญแจมือทั้งสี่ ยึดร่างสุเทพเอาไว้กับเตียง บีมค่อยๆเปลื้องเสื้อผ้าออกทีละชิ้นๆ ชุดกระโปรงของบีมค่อยๆ หลุดลงมารวมกันที่เอว ทำเอาสุเทพใจเต้นไม่เป็นจังหวะ แต่ก่อนที่ชุดกระโปรงจะเลื่อนหลุดออกไปนั้น บีมก็พูดขึ้น

      นี่สุเทพ เธอจำฉันไม่ได้จริงๆ เหรอ

      บีมพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อเล็กน้อย

      ขอโทษจริงๆ นะบีม ฉันจำเธอได้แค่ชื่อเท่านั้น แต่จำภาพของเธอในตอนนั้นไม่ได้เลยจริงๆ อย่าโกรธฉันเลยนะ

      สุเทพพยายามพูดเพราะนึกว่าเธอจะโกรธเขา แต่บีมยิ้มแล้วเอามือมาปิดปากเขาไว้

      ถ้าอย่างงั้นพอจะจำชื่อจริงของฉันได้มั๊ย?

      บีมถาม สุเทพพยายามนึกก่อนที่จะส่ายหน้าเพราะนึกไม่ออก บีมหัวเราะอีกครั้ง

      งั้นฉันจะเตือนความจำให้เธอเองเชื่อว่าเธอต้องนึกออกแน่ๆ สมัยนั้นนักเรียนแต่ละคนจะมีรายชื่อเรียงกันตามเลขที่เธอพอจะนึกชื่อที่ตามหลังชื่อเธอได้หรือเปล่า?

      สุเทพพยายามนึกตามที่บีมบอก จำได้ซิ ชื่อเพื่อนที่อยู่หลังจากชื่อของเขา พีรพล  โตเจริญแต่ว่านั่นมันชื่อผู้ชายนะ แต่เอ๊ะ?..... ไอ้หมอนั่นมันชื่อเล่นว่า.......เฮ้ย!!!!

      ว่าแล้วสุเทพก็มีสีหน้าตกใจสุดขีด บีมมองสีหน้านั้นแล้วหัวเราะ

      นึกออกแล้วใช่ไหม? นั่นแหละชื่อของฉัน

      เฮ้ย! เป็นไปไม่ได้ เธอโกหก!”

      สุเทพโวยวาย

      ไม่ได้โกหกหรอกฉันนี่แหละ บีม พีรพลนายจำฉันไม่ได้ก็ไม่แปลกหรอก เพราะฉันไว้ผมยาวขนาดนี้ แต่งตัวสวยขนาดนี้ และไปศัลยกรรมเสริมหน้าอกมาขนาดนี้ แถมยังให้หมอผ่าตัดหลอดลมให้เสียงของฉันเป็นผู้หญิงด้วย นายจะจำฉันได้ยังไง

      นะ....นายต้องการอะไร?

      แห่ม! เสียงเปลี่ยนไปอีกแล้วนะสุเทพ ฉันต้องการอะไรนะเหรอ? ก็บอกไปแล้วนี่ว่าฉันชอบนาย ฉันชอบผู้ชายแต่ฉันไม่ได้เป็นกระเทย ฉันเป็นเกย์ที่ฉันลงทุนไปศัลยกรรมมาขนาดนี้ก็เพื่อที่จะล่อให้ผู้ชายเข้ามาหาฉันได้ง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องเปลืองแรงวิ่งเข้าหา แถมแต่ละคนหล่อๆ ทั้งนั้นด้วยฉันแค่มีหน้าที่ เลือก เท่านั้นเอง  และด้วยความที่ว่าฉันกับแอน เข้ามหาลัยที่เดียวกันฉันก็เลยได้รู้เรื่องของนาย ผู้ชายคนแรกที่ฉันชอบ และในที่สุดก็ได้เจอนายจริงๆ รู้มั๊ยสุเทพ เห็นร่างกายสวยๆ แบบนี้ แต่ว่าฉันยังมี.......

      คำพูดที่ขาดหายไปของบีมถูกทดแทนด้วยการถอดชุดกระโปรงที่เหลืออยู่ออกไป เผยให้เห็นสิ่งที่ทำให้สุเทพหวาดกลัวสุดขีด

      มาสนุกกันเถอะสุเทพที่รัก

      เสียงกระซิบของบีมที่สุเทพได้ยินมันช่างโหดร้ายนัก

       

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×