เก้งหรือกวาง
คุณเคยคิดไหมว่าคนบางคนอาจจะไม่ได้เป็นเหมือนภาพลักษณ์ที่เขาแสดงออก อย่าง "ซูซี่" ที่ใครๆ ต่างก็คิดว่าเขาคือเก้งตัวแม่กวางตัวพ่อ แต่จริงๆ แล้วเขาคือ "สุเทพ" เสือผู้หญิงตัวฉกาจที่แฝงอยู่ในคราบกระเทียมโทน
ผู้เข้าชมรวม
749
ผู้เข้าชมเดือนนี้
5
ผู้เข้าชมรวม
คุณเคยคิดไหมว่าคนบางคนอาจจะไม่ได้เป็นเหมือนภาพลักษณ์ที่เขาแสดงออก อย่าง "ซูซี่" ที่ใครๆ ต่างก็คิดว่าเขาคือเก้งตัวแม่กวางตัวพ่อ แต่จริงๆ แล้วเขาคือ "สุเทพ" เสือผู้หญิงตัวฉกาจที่แฝงอยู่ในคราบกระเทียมโทน
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เก้งกวาง
“กรี๊ดดดดดดดดดดดด!! ซูซี่ นี่มันอะไรกัน!!!”
เสียงแตกตื่นของหญิงสาวที่กะลังตกใจกับสภาพเปลือยเปล่าของตัวเองบนเตียง
“อ๊ายยย!! นั่นน่ะซิเพลิน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเราสองคนเนี๊ย!!!”
อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างสะดีดสะดิ้ง
“มะ...เมื่อคืนเราปาร์ตี้กัน ละ.. แล้วเราก็มะ...เมา แล้วเราก็.... ฮืออออ!!!”
หญิงสาวพยายามทบทวนเรื่องราวของค่ำคืนที่ผ่านมาอย่างไตร่ตรอง เมื่อคืนเธอและเพื่อนๆ มาปาร์ตี้กันที่บ้านของคนที่เปลือยกายอยู่ข้างตัวเธอบนเตียงในตอนนี้ ‘ซูซี่’
“ก็นั่นน่ะซิยะยัยเพลิน!! อ๊าย!! อะไรกันยะ นี่ฉันถูกชะนีอย่างเธอทำ.... อ๊ายย!!! รับไม่ด๊ายยย!!!”
ซูซี่ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด เพลินพยายามหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องนี้
“เดี๋ยวซิ หลังจากเพื่อนๆ กลับไปแล้ว อย่างกับว่าฉันเจอผู้ชายคนหนึ่งแล้ว....แล้วเราก็.....แต่พอตื่นมาทำไมถึงได้กลายเป็นหล่อนได้ล่ะซูซี่”
“ไม่รู้ย่ะ!!! เมื่อคืนฉันก็รู้สึกว่าฉันได้เจอมาริโอ้ เมาแล้วเรอ แต่ทำไมตื่นมาถึงได้เจอชะนีขี้เมาอย่างหล่อนไปได้ล่ะย่ะ ฮึ๋ยยยย!!!”
ซูซี่ทำท่าทางขยะแขยง เพลินรู้สึกมึนหัวไปหมด จนในที่สุดเธอก็ตัดสินใจได้
“มันเป็นความผิดพลาด! ซูซี่! มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราแค่เมา... แล้ว... แล้ว... โอ๊ย! ห้ามบอกเรื่องนี้กับใครนะ!!!”
“ย่ะ!!!! คิดว่าฉันจะกล้าบอกเรื่องกับใครยะ!!! เสียประวัติหมด!! ไปๆ รีบแต่งตัวซะ!!!”
แล้วซูซี่ก็ไล่ให้เพลินไปแต่งตัว ทันทีที่เพลินแต่งตัวเสร็จ เธอก็รีบนั่ง taxi กลับไป ซูซี่เดินเข้ามาในบ้านพลางบิดร่างกายไปมาอย่างเมื่อยขบ
“เฮ้อ!!! เสร็จไปอีกคนหนึ่ง ยัยเพลินนี่ไม่เลวเลยแหะ ไม่เสียทีที่วางแผนจัดปาร์ตี้เสียดิบดี”
‘ซูซี่’ยื่นยิ้มกริ่มมองเตียงของตัวเอง และพูดด้วยน้ำเสียงภูมิใจในผลงาน น้ำเสียงที่ไม่ได้สะดีดสะดิ้งอีกแล้วแต่มันกลายเป็นเสียงของผู้ชายแท้ๆ คนหนึ่ง
นั่นแหละครับตัวผม ผมชื่อ ‘สุเทพ’ ชื่อเล่นจริงๆ ชื่อ ‘สุ’ แต่เพื่อนๆ ที่ผมรู้จักในตอนนี้จะเรียกผมว่า ‘ซูซี่’ อย่างที่คุณผู้อ่านได้ยินนั่นแหละครับ หือ? ทำไม? น่ะเหรอครับ? คงต้องเท้าความไปถึงสมัยก่อนตั้งแต่ผมยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมอยู่เลย
สมัยนั้นผมถูกล้อเลียนจากเพื่อนๆ มาตลอดว่ามีกริยาท่าทางคล้ายกับพวกกระเทยม๊ากมาก และผมก็ดันเป็นพวกที่มีนิสัยหนามยอกต้องเอาหนามบ่งเสียด้วย ผมเลยทำตัวให้เหมือนกระเทยไปเสียเลย ตอนแรกๆ ผมทำไปโดยแค่นึกสนุกเฉยๆ แต่หลังจากนั้นน่ะซิครับมันทำให้ผมติดใจเสียแล้วที่จะอยู่ในสภาพนี้
เพราะอะไรน่ะหรือครับ ก็เพราะว่าการทำตัวเป็นกระเทยนี่แหละทำให้ผมได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มเพื่อนผู้หญิง ได้ใกล้ชิดกับพวกเพื่อนสวยๆ ถูกเนื้อต้องตัวได้อย่างแนบเนียนโดยที่เจ้าหล่อนพวกนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังถูกแต๊ะอั๋งอยู่
จนวันหนึ่งวันที่กำลังจะจบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมเพื่อก้าวเข้าสู่รั้วมหาลัย พวกเราได้จัดงานเลี้ยงอำลาขึ้นวันนั้นเพื่อนสาวสุดสวยคนหนึ่งที่ผมหมายตามานานแล้วก็ดื่มหนักจนเมามาย ผมจึงอาสาพาเธอไปส่งที่ห้องพักสองต่อสองเพราะเธอพักอยู่คนเดียว ด้วยความไว้วางใจที่พวกเพื่อนๆ เห็นผมเป็นกระเทยนั่นแหละครับทำให้คืนนั้นไม่ต้องบอกก็รู้นะครับว่าเกิดอะไรขึ้น
มันทำให้ผมคิดได้ว่าลำพังหน้าตาผมที่ไม่ได้หล่อเหลาอะไร ถ้าทำตัวเป็นผู้ชายแล้วเดินเข้าไปจีบเธอเหมือนที่พวกผู้ชายคนอื่นๆ ทำ ก็ไม่รู้ชาตินี้ผมจะได้มีโอกาสแอ้มเธอเหมือนตอนนั้นหรือเปล่า ฮ่าๆ จะว่าผมเลวก็ได้นะครับผมไม่เถียง เพราะจะว่าไปผมก็เลวจริงๆ นั่นแหละ
แต่ผมก็ไม่ยอมเปลี่ยนแน่ๆ ครับ เพราะหลังจากเข้ามหาลัยสภาพกระเทยของผมนี่แหละครับทำให้ผมได้ใกล้ชิดกับสาวงามมากมาย แถมสามารถกำจัดผู้ชายที่มาเกาะแกะพวกสาวๆ เหล่านี้ออกไปได้ด้วยเพียงแค่ผมเอ่ยปากเท่านั้น สาวๆ เหล่านี้ก็เชื่อผมสนิท
ยิ่งถ้าใครอกหักมาล่ะก็ยิ่งเข้าทางเลยทีเดียว แค่ป้อนเหล้าเข้าไปนิดหน่อย ก็เหมือนลูกไก่ในกำมือ และทุกครั้งที่เสร็จสิ้นภารกิจ ผมก็จะใช้วิธีเดียวกับที่ใช้กับยัยเพลินนี่แหละครับคือแกล้งทำเป็นเมาไปด้วย และเราสองคนก็จะปกปิดความลับไม่ให้ผู้อื่นล่วงรู้ สำหรับฝ่ายหญิงคงไม่บอกแน่ๆ เพราะใครจะอยากให้คนอื่นรู้ล่ะครับว่าเผลอไปมีอะไรกับกระเทย ฮ่าๆ
ส่วนผมยิ่งไม่ต้องผู้ถึงไม่มีทางบอกใครแน่ๆ เพราะถ้าบอกไปไก่ก็ตื่นหมดน่ะซิ จริงไหม? ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ แล้วจะขอนอนต่อเสียหน่อย เพลียจริงๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น สุเทพกำลังแต่งตัวไปทำงานในชุดที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการให้คนอื่นเห็นเขาเป็นอะไร
อย่างแรกกางเกงขาเดฟรัดรูปจนแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกับขา รองเท้าหนังแท้เงาวับที่มีปลายเท้าแหลมเปรี๊ยะอย่างกับเข็ม เสื้อเชิ้ตรับรูปที่ติดกระดุมเพียงครึ่งเดียวของจำนวนทั้งหมด เพื่อให้พื้นที่ด้านขนของเสื้อเปิดหน้าอกจนแทบจะเห็นสะดือ โดยมีสร้อยที่เหมือนกับโซ่เส้นเขื่องประดับอยู่ที่ลำคอ
หนวดเคราของสุเทพจะถูกกำจัดไปทันทีที่เขาเห็นมันโผล่ขึ้นมา ขนตายาวถูกดัดให้โค้งขึ้นไปข้างบนชนิดที่ผู้หญิงบางคนยังอาย คิ้วทั้งสองข้างถูกกันจนบางไม่แพ้สาวๆ เครื่องสำอางพื้นฐานที่สุเทพจะแต่งเติมใส่ใบหน้าทุกครั้งคือ รองพื้น และแป้งฝุ่น
ทรงผมของเขาต้องใช้เวลาเซ็ทมันเป็นเวลานานอย่างประณีตจนเข้าทรง แม้แต่หูทั้งสองข้างเขาก็ลงทุนไปเจาะมา แถมด้วยต่างหูที่มีพลอยเนื้ออ่อนติดอยู่ข้างละหนึ่ง น้ำหอมสุดหรูกลิ่นรันจวนถูกพรมใส่ร่างกายเป็นการตบท้าย
สภาพของสุเทพตอนนี้ไม่ว่าใครหน้าไหนหรือแม้แต่เพศที่สามที่สี่ ณ แห่งหนใดก็ต้องพร้อมใจกันฟันทิ้งว่า สุเทพนั้นถ้าไม่ใช่เก้งตัวแม่ก็ต้องเป็นกวางตัวพ่ออย่างแน่นอน
สุเทพควบรถเก๋งยี่ห้องดังขนาดเล็กกะทัดรัดสีแดงเจ๋มาจนถึงที่ทำงาน สุเทพทำงานเป็นพนักงานฝ่ายการตลาดให้กับบริษัทเครื่องสำอางชื่อดัง
เมื่อสุเทพเดินขึ้นมาจนถึงด้านในบริษัทพนักงานสาวใหญ่ที่เป็นหัวหน้าก็เอ่ยทักทันที
“ซูซี่เดี๋ยวออกไปดูบูทที่ห้างเซ็งท่าน แทนพี่ทีซิ”
“โอ๊ย! คุณพี่ขา! ทำไมคุณพี่ไม่โทรบอกหนูก่อนคะ หนูจะได้ไม่ต้องเดินเข้ามาในอ๊อฟฟิตให้สะเทือนมดลูก!!!”
สุเทพพูดด้วยเสียงจริตจะก้าน เป็นที่ขำขันของคนที่ได้ยิน หลังจากนั้นสุเทพก็ขับรถมุ่งหน้าสู่ห้างสรรพสินค้าที่ได้รับมอบหมาย เมื่อถึงจุดหมายสุเทพก็มุ่งหน้าไปยังบูทแสดงสินค้าทันที โดยเขาคอยกำกับให้พนักงานในบูททำงาน และขณะที่เขากำลังยืนดูการทำงานของพนักงานในบูทอยู่นั้น
“ขอโทษนะคะ คุณ........ เอ่อ..... ใช่สุเทพหรือเปล่าคะ?”
เสียงหวานๆ ดังมาจากด้านหลัง สุเทพหันไปมองตามเสียง
“ใช่คะ”
เขาตอบไปตามความเคยชิน ก่อนจะชะงักเล็กน้อยกับภาพที่เห็น
‘ใครวะ สวยชะมัด’
สุเทพลอบรำพึงในใจตรงหน้าเขาคือสาวสวยแปลกหน้า เจ้าหล่อนกำลังส่งยิ้มหวานละลายใจมาให้ ทำเอาสุเทพเกือบจะหลุดแอ๊บกระเทย
“ใช่จริงๆ ด้วย จำเราได้ไหม ‘บีม’ ไง เราอยู่ห้องเดียวกับเธอสมัยเรียน ม.ปลายพอจะนึกออกหรือเปล่า”
สุเทพพยายามระลึกชาติอย่างสุดกำลังแต่ก็นึกภาพสาวสวยคนนี้ไม่ออก แม้ชื่อเจ้าหล่อนจะฟังดูคุ้นหูเท่าไหร่ก็ตาม
‘สวยขนาดนี้ทำไมตูจำไม่ได้ฟร่ะ’
สุเทพคิด สาวสวยตรงหน้ายิ้มให้อีกแล้วก็พูดขึ้น
“จำเราไม่ได้ก็ไม่แปลกหรอก ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี แถมเราเปลี่ยนจากเมื่อสมัยนั้นจนเพื่อนที่เราเจอทุกคนจำเราไม่ได้ทั้งนั้นล่ะ สมัยนั้นเราเป็นคนเงียบๆ หน้าตาธรรมดาๆ ไม่มีใครสนใจเราหรอก”
ประโยคของสาวเจ้าจุดประกายให้กับสุเทพทันที เพราะเขาเริ่มมั่นใจว่ามีเพื่อนชื่อบีมตอนเรียนมัธยมปลายจริงๆ และรู้สึกจะเป็นคนที่เก็บตัวมากไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ไม่คิดว่าจะกลายเป็นสาวสวยแบบนี้ไปได้
สุเทพยิ้มกริ่มในใจเมื่อเจอเหยื่อรายใหม่ เขาหมายมั่นแล้วว่าจะเผด็จศึกเพื่อนเก่าสาวสวยคนนี้ให้ได้
“ต๊าย!!! เพื่อนเก่าเพื่อนแก่เลยนะยะเนี่ย อย่าโกรธฉันนะเธอที่จำเธอไม่ได้ ผู้หญิงเราก็อย่างนี้แหละ ยิ่งโตยิ่งสวย โดยเฉพาะเธอเนี่ยสวยจากเมื่อก่อนชนิดฉันจำไม่ได้จริงๆ”
สุเทพพูดทำเป็นตีสนิททันทีทั้งๆที่เขาเองก็นึกภาพเพื่อนคนนี้ในสมัยก่อนไม่ออกเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่มั่นใจว่ามีเพื่อนชื่อนี้ในห้องเท่านั้น
“ขอบใจจ๊ะ สุเทพเองก็สวยขึ้นนะ แต่เราก็พอจะจำได้ไม่ยากเลย”
“ว๊าย!!! อย่าเรียกชื่อนั้นซิยะ ต้องเรียกว่าซูซี่จ๊ะ เป็นชื่อในวงกาลลลลลล”
สุเทพพูดลากเสียงสูงปรี๊ด บีมหัวเราะชอบใจกับท่าทางของเขา ยิ่งทำให้สุเทพมั่นใจว่าคราวนี้เคี้ยวขนมแน่ๆ
ทั้งสองคุยกันถึงเรื่องต่าง ๆ ในอดีต แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสุเทพที่เป็นฝ่ายเล่าเรื่องของตัวเองสมัยนั้นมากกว่า เพราะบีมไม่ค่อยมีเรื่องราวหรือวีรกรรมเยอะเท่าเขา
บีมเล่าเรื่องของตัวเองหลังจากที่จบสมัยมัธยมปลายให้สุเทพฟัง ว่าเธอเริ่มเปลี่ยนไปทั้งรูปร่างหน้าตาทรงผมการแต่งตัวเพราะการเข้ามหาวิทยาลัยของเธอ เมื่อจบออกมาเธอก็มาทำงานเป็นดีไซด์เนอร์เสื้อผ้าที่มาแสดงผลงานของเธอที่ห้างนี้เช่นกัน
“ต๊าย! นี่หล่อนเป็นดีไซด์เนอร์หรือเนี่ย ไม่น่าเชื่อเลย ถ้ายังไงต้องพาฉันไปยลผลงานเธอหน่อยแล้วล่ะ อยากเห็น! ว่าแต่คืนนี้หล่อนว่างมั๊ยยะ เดี๋ยวจะพาไปเหล่ผู้ชายที่สีลม ไปมะๆๆ”(กรุณาอ่านด้วยสำเนียงกระเทย)
บีมหัวเราะแล้วตอบตกลง
“ว่างจ๊ะ”
“โอ๊เค่! ถ้าอย่างนั้นรอฉันเลิกงานก่อนแล้วเจอกันนะ”
หลังจากนั้นสุเทพก็ทำการแลกเปลี่ยนเบอร์โทรกับบีม จนเมื่อถึงเวลาเลิกงานสุเทพโทรหาบีมทันที
“ฮัลโหลบีมอยู่ไหนยะหล่อน.......... อ๋อ! โอเคเดี๋ยวฉันไปรับ..........จ้า !!! เจอกัน”
ได้ความว่าบีมเธอกลับไปที่ห้องของเธอที่อยู่ไม่ห่างจากห้างฯนัก สุเทพขับรถออกไปตามที่อยู่ที่บีมบอกเขา จนในที่สุดรถของสุเทพก็มาจอดอยู่หน้าคอนโดหรูใจกลางเมือง สุเทพยกโทรสับกดหาบีมอีกครั้ง
“ฮัลโหลบีมถึงแล้วนะยะ จะให้ฉันขึ้นไปไหม?”
สุเทพถามด้วยความหวังลึกๆ
“ไม่จ๊ะ ฉันแต่งตัวเสร็จพอดี กำลังเดินลงไปแล้ว”
บีมตอบกลับ ทำเอาสุเทพเสียดายไม่น้อย
“ถ้าอย่างนั้นฉันรอเธออยู่ที่หน้าตึกนะยะ ขอเหล่ยามคอนโดเธอหน่อยน่ากินชะมัดเลย”
สุเทพพูดตามแบบฉบับเพื่อความแนบเนียน บีมหัวเราะ
“ได้จ้า! เดี๋ยวเจอกัน”
หลังจากวางสายสุเทพเดินวนเวียนอยู่แถวด้านหน้าทางเข้าออกของคอนโด โดยยังไม่ได้เข้าไปแต่อย่างใด และทันทีที่เขาสังเกตเห็นลิฟต์ที่กำลังจะลงมาเขาก็ตรงดิ่งเข้าไปใกล้ๆ ยาม เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกและร่างของบีมก้าวออกมา สุเทพก็หันไปส่งสายตาหวานเยิ้มให้ยามทันที
“นี่ตัวเธอ มีแฟนหรือยัง ออกเวรเมื่อไหร่หรอ ไปเที่ยวกันไหม?”
ยามคนนั้นมีท่าทีตกใจเล็กน้อยกับท่าทีของสุเทพ ยามยิ้มแห้งๆ ให้เขาด้วยท่าทีหวาดๆ บีมที่เดินเข้ามาใกล้หัวเราะคิก
“นี่ซูซี่ มาจีบพี่ยามเขาจริงๆ เหรอเนี่ย ไปๆ ไปเที่ยวกันได้แล้ว”
บีมพูดอย่างอารมณ์ดีพลางผลักให้สุเทพเดินไปทางลานจอดรถสุเทพแกล้งทำเป็นอิดออด
“ไม่ไปได้มั๊ย พี่คนนี้น่ากินกว่าเยอะ”
สุเทพพูดพลางส่งจูบไปทางพี่ยาม จนพี่ยามเกิดอาการขนลุก แต่แล้วเขาก็ยอมเดินไปตามแรงผลักของบีมโดยแกล้งทำเป็นเสียดายเล็กน้อย เขาหันมาสำรวจการแต่งกายของบีมก็พบว่าสาวเจ้าอยู่ในชุดประโปรงสั้นสุด sexy สีดำจนเขาแทบอยากจะสลัดคราบกระเทยทิ้งแล้วกระโจนเข้าหาเธอมันเดี๋ยวนั้น แต่ก็ต้องสะกดกลั้นเอาไว้ แล้วขับรถออกไปพลางชวนเจ้าหล่อนคุยเรื่องอื่นอย่างสนุกสนาน
เมื่อไปถึงผับทั้งสองคนต่างก็เฮฮากันอย่างสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเมื่อมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นตัวชูโรงอะไรๆ ก็ดูจะสนุกไปเสียหมด
ระหว่างนั้นก็มีผู้ชายหลายคนเดินวนเวียนเข้ามาขอชนแก้วกับบีมบ้าง จีบดื้อๆ บ้างแต่ผู้ชายเหล่านั้นก็ถูกเขากันออกไปอย่างง่ายดายโดยการเข้าไปจีบผู้ชายเหล่านั้นเสียเอง ถ้าคนไหนดื้อด้านเขาก็งัดไม้ตายออกมานั่นก็คือการ ‘ลวนลาม’ จนผู้ชายเหล่านั้นทนไม่ไหวต้องเดินหนีจากไป
สุเทพพยายามให้บีมดื่มให้มากที่สุดโดยไม่ให้เจ้าหล่อนรู้ตัวเมื่อรู้สึกว่าเจ้าหล่อนเมาได้ที่เขาก็ลอบแต๊ะอั๋งอย่างแนบเนียน และยิ่งเมื่อเจ้าหล่อนไม่มีปฏิกิริยาป้องกันตัวจากเขาก็ทำให้เขามั่นใจว่าหล่อนเมาแล้ว
“บีม!! เป็นไงบ้างหล่อน!”
สุเทพแกล้งทำเป็นถามบีมเพื่อความแน่ใจ แต่บีมไม่ตอบ
“เมาแล้วมั้งเนี่ย กลับกันดีกว่ามั๊ย!”
เขาถามเธอ บีมทำได้แค่เพียงพยักหน้ารับ และนั่นทำให้เขาลอบไชโยในใจอย่างยินดี แล้วสุเทพก็หอบเอาร่างอ่อนระทวยของเพื่อนสาวขึ้นรถ แล้วมาส่งที่คอนโดของเจ้าหล่อนเอง สุเทพค่อยๆ หอบร่างของเพื่อนสาวขึ้นไปบนห้องของเธอ
เมื่อเข้ามาในห้องสุเทพจัดแจงวางร่างของเธอให้นอนบนเตียง พลางเผยรอยยิ้มสมใจหมาย เขาก้มลงไปหอมแก้มเธอเป็นการมัดจำ
“รอก่อนนะจ๊ะบีม เดี๋ยวขอไปอาบน้ำซักหน่อยก่อน”
ว่าแล้วเขาก็เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ เมื่อออกมาจากห้องน้ำภาพที่ทำให้เขาต้องชะงักคือบีมกำลังนั่งอยู่ที่ขอบเตียงแล้วมองมาทางเขา
“อ้าว? บีมตื่นแล้วเหรอเธอ พอดีฉันร้อนน่ะเลยขอยืมใช้ห้องน้ำเธอหน่อย”
บีมมองเขาด้วยสายตาที่ไม่เหมือนคนเมาแม้แต่น้อย
“ไม่ต้องแกล้งทำเป็นกระเทยแล้วละสุเทพ”
เธอบอกกับเขา ทำเอาใจของสุเทพหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
“หมายความว่าไงยะบีม”
“ที่เธอทำกับฉันเมื่อกี้ก่อนที่จะเข้าห้องน้ำนั่นก็เป็นการแสดงออกมาแล้วไม่ใช่เหรอว่าเธอไม่ได้เป็นกระเทย”
พระเจ้าช่วยเธอไม่ได้เมา!! เอายังไงดีละสุเทพ ขณะที่สุเทพกำลังคิดหาทางหนีทีไล่อยู่นั้นบีมก็พูดออกมาอีกว่า..
“เธอจำ ‘แอน’ ได้ไหม?”
สุเทพแข็งเป็นหินเมื่อได้ยินชื่อนี้ “แอน?” จำได้ซิ ก็แอนคนนี้แหละที่เขาหมายตาเอาไว้สมัยมัธยม แล้วเขาก็เป็นคนไปส่งเธอหลังจากงานเลี้ยงจนได้เผด็จศึกเธอในคืนนั้นเอง
“ที่ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่กระเทยก็เพราะแอนนี่แหละบอกฉัน และก็บอกด้วยว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้ในคืนนั้น”
บีมพูดต่อ ทำเอาสุเทพเหงื่อตก
“บีม เธอคงไม่.......”
เสียงของสุเทพไม่ได้ดัดจริตอีกต่อไป หากแต่เป็นเสียงของผู้ชายล้วนๆ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เขาใช้พูดกับคนอื่น สุเทพกำลังกลัวว่าบีมกำลังจะใช้เรื่องนี้ในการเปิดโปงเรื่องที่เขาแกล้งเป็นกระเทย บีมมองเขาแล้วยิ้มเล็กน้อย
“อย่ากลัวไปเลยสุเทพ ฉันไม่บอกเรื่องนี้กับใครหรอก แอนเองก็ไม่ได้ติดใจจะเอาความอะไรกับเธอเรื่องนี้ แต่ที่ฉันจะบอกกับเธอคือฉันชอบเธอ ชอบมาตั้งแต่ตอนที่เธอยังไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นกระเทยแล้ว”
คำพูดของบีมทำเอาสุเทพมืนงงไปหมด บีมลุกขื้นจากเตียงแล้วเดินเข้ามาหาเขา
“ฉันชอบนายมาตลอด แม้จะเห็นว่านายกลายเป็นกระเทยไปแล้วฉันก็ยังชอบอยู่ และยิ่งมารู้จากแอนว่านายไม่ได้เป็นกระเทยจริงๆ แค่แกล้งเป็นเท่านั้นยิ่งทำให้ฉันดีใจ”
บีมเดินเข้ามาสวมกอดเขาเอาไว้ กลิ่นหอมของเธอลอยเข้ามากระทบจมูก นี่เขาหูฝาดไปหรือเปล่าสาวสวยคนนี้รู้ว่าเขาไม่ใช่กระเทย แถมกำลังสารภาพรักกับเขาอีกด้วย
ไว้เท่าความคิด สุเทพโอบกอดร่างของบีมเอาไว้
“ฉันก็ชอบเธอบีม ที่ฉันแกล้งทำเป็นกระเทยมาตลอดเพราะต้องการใกล้ชิดกับผู้หญิง เพื่อที่จะหาผู้หญิงที่ชอบฉันจริงๆ ซักคนหนึ่ง ว่าแต่เธอชอบฉันจริงๆ เหรอ?”
แทนคำตอบบีมเอาแขนคล้องคอเขาให้ก้มลงต่ำเพื่อรับกับสัมผัสจากริมฝีปากของเธอ จนในที่สุดสุเทพก็ทนไม่ไหวจัดการทิ้งตัวเองและบีมลงไปบนที่นอน แต่ขณะที่เขากำลังจะสานต่อการกระทำ บีมก็จับมือเขาหยุดเอาไว้เสียก่อน
“ทำไมเหรอบีม?”
เขาถามเสียงกระเส่า
“บีมของเป็นฝ่ายทำเองได้มั๊ย แต่ทำตามวิธีการของบีมนะ”
บีมพูดเสียงออดอ้อน สุเทพยิ้มกริ่ม
“ได้เลยไม่มีปัญหา”
บีมจัดการเขาให้นอนหงายแล้วหันไปล้วงอะไรบางอย่างจากมุมเตียงทั้งสี่มุมออกมา สุเทพเห็นเข้าก็งุนงงเล็กน้อยเพราะมันคือกุญแจมือ
“บีมชอบแบบนี้เหรอเนี่ย?”
สุเทพถามบีมหันมายิ้มหวานให้
“สุเทพไม่ชอบเหรอ?”
“ชอบซิ เคยเห็นแต่ในหนังไม่เคยลองมาก่อนเลย เอาเลยๆ อยากลอง”
สุเทพเรียกร้องเหมือนเด็กๆ บีมจัดการพันธนาการแขนขาของสุเทพเข้ากับกุญแจมือทั้งสี่ ยึดร่างสุเทพเอาไว้กับเตียง บีมค่อยๆเปลื้องเสื้อผ้าออกทีละชิ้นๆ ชุดกระโปรงของบีมค่อยๆ หลุดลงมารวมกันที่เอว ทำเอาสุเทพใจเต้นไม่เป็นจังหวะ แต่ก่อนที่ชุดกระโปรงจะเลื่อนหลุดออกไปนั้น บีมก็พูดขึ้น
“นี่สุเทพ เธอจำฉันไม่ได้จริงๆ เหรอ”
บีมพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อเล็กน้อย
“ขอโทษจริงๆ นะบีม ฉันจำเธอได้แค่ชื่อเท่านั้น แต่จำภาพของเธอในตอนนั้นไม่ได้เลยจริงๆ อย่าโกรธฉันเลยนะ”
สุเทพพยายามพูดเพราะนึกว่าเธอจะโกรธเขา แต่บีมยิ้มแล้วเอามือมาปิดปากเขาไว้
“ถ้าอย่างงั้นพอจะจำชื่อจริงของฉันได้มั๊ย?”
บีมถาม สุเทพพยายามนึกก่อนที่จะส่ายหน้าเพราะนึกไม่ออก บีมหัวเราะอีกครั้ง
“งั้นฉันจะเตือนความจำให้เธอเองเชื่อว่าเธอต้องนึกออกแน่ๆ สมัยนั้นนักเรียนแต่ละคนจะมีรายชื่อเรียงกันตามเลขที่เธอพอจะนึกชื่อที่ตามหลังชื่อเธอได้หรือเปล่า?”
สุเทพพยายามนึกตามที่บีมบอก จำได้ซิ ชื่อเพื่อนที่อยู่หลังจากชื่อของเขา ‘พีรพล โตเจริญ’ แต่ว่านั่นมันชื่อผู้ชายนะ แต่เอ๊ะ?..... ไอ้หมอนั่นมันชื่อเล่นว่า.......เฮ้ย!!!!
ว่าแล้วสุเทพก็มีสีหน้าตกใจสุดขีด บีมมองสีหน้านั้นแล้วหัวเราะ
“นึกออกแล้วใช่ไหม? นั่นแหละชื่อของฉัน”
“เฮ้ย! เป็นไปไม่ได้ เธอโกหก!”
สุเทพโวยวาย
“ไม่ได้โกหกหรอกฉันนี่แหละ ‘บีม พีรพล’ นายจำฉันไม่ได้ก็ไม่แปลกหรอก เพราะฉันไว้ผมยาวขนาดนี้ แต่งตัวสวยขนาดนี้ และไปศัลยกรรมเสริมหน้าอกมาขนาดนี้ แถมยังให้หมอผ่าตัดหลอดลมให้เสียงของฉันเป็นผู้หญิงด้วย นายจะจำฉันได้ยังไง”
“นะ....นายต้องการอะไร?”
“แห่ม! เสียงเปลี่ยนไปอีกแล้วนะสุเทพ ฉันต้องการอะไรนะเหรอ? ก็บอกไปแล้วนี่ว่าฉันชอบนาย ฉันชอบผู้ชายแต่ฉันไม่ได้เป็นกระเทย ฉันเป็น ‘เกย์’ ที่ฉันลงทุนไปศัลยกรรมมาขนาดนี้ก็เพื่อที่จะล่อให้ผู้ชายเข้ามาหาฉันได้ง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องเปลืองแรงวิ่งเข้าหา แถมแต่ละคนหล่อๆ ทั้งนั้นด้วยฉันแค่มีหน้าที่ ‘เลือก’ เท่านั้นเอง และด้วยความที่ว่าฉันกับแอน เข้ามหาลัยที่เดียวกันฉันก็เลยได้รู้เรื่องของนาย ผู้ชายคนแรกที่ฉันชอบ และในที่สุดก็ได้เจอนายจริงๆ รู้มั๊ยสุเทพ เห็นร่างกายสวยๆ แบบนี้ แต่ว่าฉันยังมี.......”
คำพูดที่ขาดหายไปของบีมถูกทดแทนด้วยการถอดชุดกระโปรงที่เหลืออยู่ออกไป เผยให้เห็นสิ่งที่ทำให้สุเทพหวาดกลัวสุดขีด
“มาสนุกกันเถอะสุเทพที่รัก”
เสียงกระซิบของบีมที่สุเทพได้ยินมันช่างโหดร้ายนัก
ผลงานอื่นๆ ของ Araphyma ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Araphyma
ความคิดเห็น